2552-06-17

My Wedding Day 09.06.13 (part 2)

ตอนนั้นรู้สึก ตื่นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาเต้นข้างนอก แขกเยอะมาก ๆ แล้วทุกคนก็มองมาที่เรา บีบมือซันแล้วบีบมือซันอีก บอกว่าตื่นเต้น ๆกลัวพูดผิดพูดถูก ซันก็เหงื่อออก เพราะไฟบนเวที แล้วก็คงตื่นเต้นด้วยแต่พี่ต้อม ที่อุตส่าห์มาเป็นพิธีกรให้ก็คล่องมาก น่ารักมากค่ะ ช่วยพูดให้พวกเราตลอด แล้วก็ทิงด้วย ที่มาช่วยเป็นพิธีกรให้อีกคน

พวกเราเปิด วีดีโองานหมั้นที่ซันทำ Surprise ให้ผิงโดยขอให้พี่ลุลามาร้องเพลงดาวเสาร์ เพลงโปรดของผิงให้ในงาน โดยที่ผิงไม่รู้มาก่อน ให้แขกดู หลังจากนั้นพวกเราก็พูดขอบคุณพ่ออู๊ดที่มาเป็นประธานในพิธี แล้วก็พ่อแม่ ป๊าม๊า ญาติพี่น้อง และแขกเหรื่อทุกคนสุดท้ายผิงก็พูดว่า

"จากงานหมั้นที่ซันได้ทำ Surprise ให้ผิงแล้ว ในวันนี้ผิงก็มี Surprise ให้เหมือนกันค่ะ เป็น Surprise จากเราทั้งสองคน เป็นสิ่งที่ผิงทำเองกับมือ แต่สิ่งที่ผิงทำ มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ผิงได้รับค่ะ เชิญชมค่ะ"

บทพูดนี้ ตอนแรกพี่เปิ้ลแนะให้พูด ตอนนั้นไม่ได้มีสมาธิท่อง แต่ตอนต้องพูดมันเหมือนออกมาเองจากใจจริง ๆ ค่ะ พอ Presentation ที่ผิงทำให้แม่ กับ ม๊า จบลง ผิงกับซันก็เดินไปจุดเทียน ตัดเค้ก แล้วก็นำเค้กไปให้กับผู้ใหญ่เค้กที่ให้ไม่ได้เป็นเค้กที่ตัด (จริง ๆ คือเค้กใหญ่มันเป็นเค้กปลอมค่ะ ตัดไม่ลงหรอกค่ะ) เป็นคัพเค้กที่พี่จิ๊บทำให้ เป็นสีฟ้าน่ารัก เข้ากับงาน แอบเก็บกลับมาชิม ก็อร่อยมาก ๆ ค่ะ ต้องขอบคุณพี่จิ๊บจริง ๆ ที่สละเวลางานมาทำให้ผิงกับซันนะคะเริ่มเอาเค้กไปให้เหน่ก่อนจากนั้นก็แม่ ที่ให้พร้อมกับการ์ดที่ซันเขียนเองแล้วก็อากง (คุณปู่) ของผิง อาม่าอากง (คุณยายคุณตา) แล้ว ก็ป๊าม๊า ตอนให้เค้ก เงยหน้าขึ้นไปเห็นน้ำตาม๊า กับป๊า ผิงก็เริ่มตื้นตัน รู้สึกว่าชีวิตนี้ ติดหนี้ชีวิตท่านเยอะเหลือเกิน ยังทำให้ท่านต้องร้องไห้ ตอนกอดม๊า ผิงก็สุดกลั้น ร้องไห้ออกมาอีกแล้ว

กอดม๊ากอดป๊าแล้ว ก็ถึงคราวโยนดอกไม้ให้เพื่อน ๆ ปรากฏว่าน้องปุ้ยที่ Peony ได้รับไปครอง เพราะไวกว่าเพื่อน ผิงก็ขอให้โชคดีเรื่องความรักต่อไปนะคะ หลังจากนั้นก็ได้กล่าวขอบคุณเพื่อน ๆ รวมทั้งเพื่อนต่างชาติ ที่ผิงรักมาก ๆ อย่าง จียอน โซยอน ฮวายอน เจียหลิน มิโดริ แล้วก็ เคียวโกะ ขอบคุณเพื่อน ๆ มาก ๆ ที่อุตส่าห์บินมาถืงเมืองไทย เพื่อจะอวยพรให้กับผิง จียวนร้องไห้ใหญ่เลย บอกว่าขอโทษที่ร้องไห้ เค้าบอกว่า

"I cried because I am so happy for you."

ผิงก็ซึ้งใจมาก ๆ ค่ะเดินไปคุย ถ่ายรูป กับกลุ่มโน้นกลุ้มนี้เยอะแยะ แล้วก็ถึงเวลาส่งแขก หลาย ๆ คนก็ยังอยากถ่ายรูปด้วย จนเวลาเกือบสี่ทุ่ม ก็ยังไม่กลับ ผิงเชิญเพื่อน ๆ ไป After party กันต่อ ที่ Boutique Hotel ชื่อ Ten Faces ที่ซอยร่วมฤดี พวกเราบอกให้เพื่อน ๆ ไปรอกันก่อนที่โน่น แล้วก็ขี้นไปเปลี่ยนชุด ชุด After Party นี้ เป็นชุดเก่าของอาม่าสมัยยังสาว ๆ พี่ Pravit แห่ง Code 10 ที่ตัด ชุดหมั้นให้ผิง เป็นคนเอาไปตัดแปลงให้เป็น Party Dress เป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับผิง เพื่อน ๆ รู้แล้วกรี๊ดสลบกันแทบทุกคน ไม่น่าเชื่อว่า อาม่าเราจะเปรี้ยวได้ขนาดนี้

ผิงกับซันเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ขับรถไป Ten Faces พอไปถึงก็เห็นเพื่อน ๆ เกือบสี่สิบคน นั่งกันอยู่แล้ว ตอนนั้นไม่รู้สึกเหนื่อยเลย สงสัยว่ามันชินชาไปแล้ว ไปนั่งโต๊ะไหนเพื่อน ๆ ก็ให้ดื่ม คุยกับเพื่อน ๆ เฮฮากันพักใหญ่ จนมึน คืนนั้นสนุกมากจริง ๆ

วันนี้เป็นวันที่สำคัญ เป็นวันที่น่าประทับใจอีกวันหนึ่งในชีวิตของผิง เป็นวันที่ทุกคนที่ผิงกับซันรักมารวมตัวกันและทำทุกอย่างเพื่อเราสองคน ทำให้ผิงกับซันรู้สึกเป็นคนสำคัญและโชคดีที่สุดที่ได้อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ

My Wedding Day 09.06.13 (part 1)

วันนี้ขอเขียนบันทึกวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตไว้หน่อยนะคะ

เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันแต่งงานของผิงเองค่ะ วันนั้นผิงตื่นตั้งแต่เช้า ประมาณ 6 โมงได้ ทั้งที่นอนค่อนข้างดึกเพราะว่าเตรียม presentation surprise คุณแม่ ตามคำแนะนำของพี่เปิ้ล จริง ๆ แล้วโปรแกรมทำ presentation ของ mac book ใช้ไม่ยากเลย เพียงแต่ว่าผิงไม่เคยทำมาก่อน เลยค่อยข้างใช้เวลา

ผิงตื่นขึ้นมาแต่งตัว เตรียมของใช้ เสื้อผ้าต่าง ๆ ใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะว่าคืนนั้นจะนอนค้างห้องที่โรงแรมให้ฟรีหนึ่งคืน เรากินข้าวเช้ากันตามปกติ และออกจากบ้านตอนประมาณ 10 โมงเช้า ตอนนั้นผิงรีบเร่งออกจากบ้าน เพราะว่ากังวลเรื่องการจัดงานต่าง ๆ ในโรงแรม พอมาถึงโรงแรม ก็โทรหาพี่เปิ้ล พี่หมวย พี่หมวยเป็น Wedding Planner ของทางโรงแรมค่ะ พี่หมวยบอกให้ check-in ได้เลย ทางโรงแรมเตรียม Suite ที่เป็น Connecting Rooms ไว้ให้แล้ว ห้องที่เราได้เป็นห้อง 2501 และ 2502 ชั้น 25 ของโรงแรม Intercontinental พวกเราเอา CD Wedding Presentation แล้วก็ Presentation ที่ผิงทำให้คุณแม่ ให้พี่หมวยลอง Test ดูกับจอจริง ๆ ก่อน ปรากฏว่า Presentation ที่ผิงทำมันไม่ชัด เพราะว่า save มา solutions ต่ำไป โชคดีที่ผิงเตรียมเครื่องคอมมาที่โรงแรมด้วย ผิงกับซันเลยไป Check-in ก่อน จัดของเรียบร้อย ก็มานั่งงมกับการ Save Presentation ให้มันชัดขึ้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แต่ว่าใช้เวลา ทำให้ผิงตื่นเต้นนิดหน่อยว่ามันจะไม่เสร็จ ซันขอออกไปซื้อ Necktie ที่ Gaysorn Plaza ใกล้ ๆ โรงแรม

เที่ยงตรง ซันกลับมาที่โรงแรมแล้ว Room Service ก็เอาอาหารเที่ยงมาบริการให้พอดี เป็นข้าวผัดสองจาน ซันทานเร็วมาก ทานเสร็จก็บอกว่าปวดกระเพาะ อาจจะเป็นเพราะว่า เครียด ทานเร็วเกินไป แล้วก็ทานข้าวไม่ตรงเวลามาหลายวัน เลยโทรไปบอกให้ปิง น้องชายที่กำลังเรียนหมออยู่ ให้ช่วยเอายามาให้ จากนั้นผิงกับซันก็ไปล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวแต่งหน้ากับคุณน้าลูกน้ำ พอบ่ายโมงตรง คุณน้าลูกน้ำก็มาถึงที่ห้อง ผิงก็เริ่มแต่งหน้า ทำผม ซันก็คอยช่วยรับโทรศัพท์ เอาของไปให้คนนั้น คนนี้ แล้วก็คอยต้อนรับคุณแม่ กับคุณอา ที่มาแต่งตัว แต่งหน้ากันที่โรงแรม ตอนนั้นคุณเอก ก็ขอเข้ามาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศการเตรียมตัวของพวกเรา

พอหน้าผมเสร็จเรียบร้อย คุณน้าลูกน้ำก็เริ่มแต่งหน้าให้ซัน พี่อารีย์จากร้านของคุณไข่ก็เอาชุดแต่งงาน กับชุดที่จะใช้ยกน้ำชา มาส่งให้พอดี ผิงเปลี่ยนชุดเป็นชุดแต่งงานก่อน มีพี่อารีย์ช่วยใส่ให้ พอใส่แล้ว ไม่ทันได้เห็นตัวเองในกระจกก็ต้องรีบออกไปถ่ายรูปก่อน พวกเราตามพี่เอกไปถ่ายรูปกับงาน ถ่ายรูปกับเค้ก แล้วก็รอบ ๆ โรงแรม ตอนนั้นพี่เปิ้ลโทรตามหลายครั้ง ให้พวกเราไปเตรียมตัวยกน้ำชาได้แล้ว เพราะได้เวลาแล้ว

ผิงต้องรีบขึ้นไปเปลี่ยนจากชุดแต่งงาน เป็นชุดยกน้ำชาสีชมพูที่ขอยืมมาจากร้านของคุณไข่ พอลงมา รวบรวมญาติ ๆ ที่จะมายกน้ำชา พิธีการก็เริ่มก่อนที่ทุกคนจะครบเพราะว่า เลยกำหนดการไปซักพักแล้ว แต่ไม่นานทุกคนก็มากันพร้อมหน้า พิธีการยกน้ำชานี้ เริ่มให้ยกให้ฝ่ายหญิงก่อน เพราะว่ามากันครบแล้ว ซันนั่งคุกเข่าแล้วเจ็บเท้ามาก เพราะว่าใช้รองเท้าหนังคู่ใหม่ เหงื่อออกเยอะมาก ไม่รู้เพราะว่าแสงไฟ ร้อนเพราะใส่สูธ หรือว่าเจ็บเท้า พอพิธีการเสร็จได้ลุกขึ้นยืน ก็ค่อยยังชั่ว

ผิงต้องขึ้นไปเปลี่ยนชุดอีกครั้ง คุณน้าลูกน้ำกับพี่อารีย์ ก็นั่งคอยอยู่เพื่อซับหน้า เปลี่ยนชุดให้อีกรอบ ต้องขอบคุณทั้งคู่มากนะคะ ลงจากลิฟท์มาปุ๊ปพี่เปิ้ลก็เอาพวกเราไปฝึกเดินเข้างาน เดินบนเวที จุดเทียน ตัดเค้ก แล้วก็เตี๊ยมบทพูดให้เรา สุดท้ายก็พาเรามายืนหน้า Backdrop แล้วก็ยืนอยู่อย่างนั้นจนพิธีเริ่ม ตอนนั้นไม่รู้เวลาเลยค่ะ ใครบอกให้ทำอะไรก็ทำหมด

พอเริ่มจะเปิดตัวคู่บ่าวสาว พี่เปิ้ลก็ให้พวกเราไปยืนที่ประตูห้อง Grand Ballroom แล้วก็จัดให้ เพ่ย ๆ อัน ๆ แมง กับ โม ยืนนำหน้าสองคู่ ถือเทียน ตอนนั้นก็มีการเปิด Wedding Presentation ที่ The Tong Design ทำให้ เป็น Introduction ว่าบ่าวสาวเจอกันที่ไหน ได้ยังไง ทำเป็นการ์ตูนสีไม้ น่ารักมากค่ะ พอจบเพลง เจ้าหญิง ก็ขึ้น ประตูห้องก็เปิด พี่เปิ้ลให้ Bridesmaid สองคู่ ถือเทืยน เดินนำเข้าไปก่อน พอขึ้นท่อนที่ร้องว่า "แล้วเธอ..ก็เข้ามา เปลี่ยนหัวใจ...."
พวกเราก็เริ่มก้าว เดินเข้าไปในห้องจัดงานที่มีคนอยู่ประมาณพันล้านคน แล้วก็เดินขึ้นเวทีพร้อมแสดงแฟลชวิบวับ

(to be continued...)

2552-06-01

My Engagement Day

เมื่อวาน วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2552 เป็นวันหมั้นของผิงกับซันค่ะพวกเราตัดสินใจเลือกโรงแรม Grand Hyatt Erawan เป็นสถานที่จัดงานค่ะ จริง ๆ แล้วผิงเป็นคนเลือกเองค่ะ ซันเค้าตามใจ ผิงชอบห้อง Residence ของทางโรงแรมมาก ๆ ผิงว่าเจ้าสาวรุ่นใหม่หลาย ๆ คน ก็คงชอบเหมือนกันค่ะ
ก่อนหน้าวันหมั้นสองวัน ผิง กับ ซัน ก็จัดการไปไหว้พระพรหมณ์ให้เรียบร้อย เพื่อจะบอกให้ท่านทราบว่า พวกเราจะจัดงานในอนาบริเวณของท่านตามคำแนะนำของอี้อัญชลี

ในวันงานพวกเรามีฤกษ์สวมแหวนตอนเช้า 9.45 ผิงตื่นตั้งแต่ ตีสี่กว่า ๆ เพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านพร้อมคุณแม่ และน้องสาว มาถึงโรงแรมตีห้าครึ่ง ฟ้ายังมืดอยู่ ก็เริ่มแต่งหน้า ทำผม ตอนนั้นยังไม่ตื่นเต้นเลย ไม่ง่วง รู้สึกเหมือนทุก ๆ วัน อาม่ากับอี้กลาง กู๋ตุ๊ ก็ทยอยกันเข้ามา ซันมาถึงประมาณหกโมงกว่า ๆ พอแต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย ผิงก็เปลี่ยนชุด สวมรองเท้า แล้วก็ลงไปด้านล่างตอนนั้น 8 โมงแล้ว พี่เปิ้ล wedding planner ของเราก็โทรมาพอดี เจอพี่เปิ้ลแล้ว ซันก็ยื่นถุงสีส้มถุงนึงให้พี่เปิ้ล บอกว่าเป็นของที่พี่เปิ้ลให้เตรียม ผิงก็ไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นก็ยิ้มตลอด ตามคำสั่งของพี่เปิ้ลว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องพูดน้อย ๆ ยิ้มเข้าไว้ ผิงกับซันตามช่างภาพไปถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ของโรงแรม กลับขึ้นมาก็ยังเหลือเวลาให้พูดคุย ทักทายกับน้อง ๆ กับญาติสนิท กับเพื่อนๆ ได้ถ่ายรูปกัน พี่จิ๊บน่ารักมากค่ะ ช่วยเป็นช่างกล้องจำเป็นให้กับพวกเรา หลายครั้งแล้วที่ได้ความช่วยเหลือจากพี่จิ๊บ ต้องขอบคุณพี่จิ๊บคนสวยมาก ๆ

พอถึงเวลาพิธีกรก็เริ่มประกาศ ตอนนั้นผิงกับซันยืน standby อยู่ด้านหลัง ซันกุมมือผิงไว้ ตอนนั้นเองค่ะที่ผิงรู้สึกว่า ตื่นเต้นมาก ๆ พอพิธีกรประกาศชื่อให้เราขึ้นเวที ประธานในพิธี อาม่า อากง อากงเซี้ยง พ่ออู๊ด แม่เกียน เหน่ ม๊า ป๊า คุณแม่ คุณพ่อ ก็นั่งอยู่บนเวทีแล้ว พวกเราขึ้นไปนั่งหน้าประธาน พอหันกลับไป ก็เห็นแขกนั่งบ้าง ยืนบ้าง มองเราเต็มเลย ตอนนั้นตื่นเต้นแล้ว ใครบอกให้ทำอะไรก็ทำ ให้นั่งยังไง จับมือ ยิ้ม ถ่ายรูป นั่งซักพัก แล้วก็ถึงเวลาสวมแหวน พิธีกรก็ประกาศว่า ได้เวลาอันสมควรแล้ว ... พวกเราก็สวมแหวนให้กัน ตอนนั้นรู้สึกว่า เรากำลังให้สัญญากัน แบบไม่ต้องพูดอะไร แบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

พอสวมแหวนเสร็จ เพลงก็ขึ้น แค่ทำนอง ผิงก็ทราบแล้วว่าเป็นเพลงดาวเสาร์ของลุลา เพลงนี้ผิงชอบมาก ๆ ชอบตั้งแต่ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกับซันผิงกะว่าจะเปิดในงานแต่งในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ก็เลยงง ๆ ว่าทำไมพี่เปิ้ลเอามาเปิดวันนี้ ซักพัก ผิงก็เห็นลุลา ลุลาตัวจริง เดินเข้ามาในงาน แล้วก็เดินเข้ามาหาเวที ตอนนั้นผิงตกใจมาก ถ้าใช้คำว่า surprise อาจจะน้อยไปหน่อย ผิงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่คิดเอาไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะงานหมั้นงานแต่ง ผิงคงไม่ร้องไห้แน่นอน เพราะว่าร้องแล้วช่างแต่งหน้าคงกลุ้มใจ แล้วผิงก็คิดว่าวันแห่งความสุขผิงจะไม่ร้องไห้ แต่ตอนนั้นผิงตกใจจนสุดกลั้นจริง ๆ การที่ลุลามาเป็นส่วนนึง แต่การที่เรารู้ว่าซันตั้งใจทำสิ่งนี้ให้เรา ทำให้ผิงกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจไว้ไม่อยู่ ผิงต้องขอบคุณซันมาก ๆ ที่ทำเพื่อผิง ไม่ใช่แค่วันหมั้น แต่เป็นทุก ๆ วันที่ซันทำทุกอย่างเพื่อผิง ตอนนั้นผิงแอบค้อนซันนิดหน่อย บอกซันเบา ๆ ว่า "นายทำเราไม่สวยเลย จมูกแดงไปหมด" ซันก็ตอบว่า "ไม่หรอก ผิงสวยมาก"

หลังจากนั้นก็ทำพิธีการมอบของหมั้น และต่อด้วยพิธีการต่าง ๆ พวกเราก็กลับขึ้นไปนั่งบนเวที มีน้องอัน ๆ ยกอี้กับไข่ต้มมาให้ ผิงตักไข่ต้มป้อนซัน ซันก็ทานเข้าไปทั้งลูก แบบไม่ต้องตัดหรือกัดเลย ส่วนอี้หรือขนมบัวลอย เราต้องทานแล้วเหลือ 4 หรือ 8 ลูกในชามเพื่อเป็นสิริมงคล พอทานเรียบร้อย พวกเราก็นั่งกันต่อเพื่อรอถ่ายรูปกับแขกทุกๆ ท่าน

พวกเราได้ถ่ายรูปกับคุณลุลา ได้ลายเซ็นบนรูป pre-wedding ของพวกเราที่ซันแอบให้พี่เปิ้ลก่อนเริ่มงาน
แขกเหรื่อผลัดกันขึ้นมาถ่ายรูปกับพวกเรา พอถ่ายเสร็จพวกเราก็เชิญทุก ๆ คนไปห้อง 303 และ 304 เพื่อทานอาหารเที่ยงกัน จากนั้นประมาณบ่ายโมงแขกก็เริ่มทยอยกลับ วันนี้เหนื่อยมาก แต่ก็มีความสุขมาก ผิงไม่เคยนึกมาก่อนว่างานหมั้นผิงจะพิเศษมากกว่าพิเศษถึงขนาดนี้ มีคนบอกว่า หลายคนน้ำตาซึม รวมทั้งป๊าด้วย ผิงต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้ความรักกับผิงมากขนาดนี้ ทำให้ผิงเติบโตมา และมีความสุขขนาดนี้ โดยเฉพาะม๊าที่ช่วยงานผิงทุกอย่าง ที่วิ่งวุ่นตลอดการเตรียมงาน ที่ลงทุนมากมาย ให้ผิงได้มีงานที่ดี มีวันที่ดี ซันที่รักผิง ทำหลาย ๆ อย่างเพื่อผิงมาตลอด ญาติพี่น้องทุกคนของผิงและซัน ที่ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยาน เพื่อน ๆ ที่มาให้กำลังใจ พี่เปิ้ลที่ทำให้งานราบรื่น และสมบูรณ์แบบ ผิงขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


"เวลานี้จะมีอะไรที่สวยงาม เท่ากับการได้นั่งดูดาวเคียงข้างเธอ คนที่ฉันเฝ้ารอมานานจนพบเจอ เธอคนนี้ เราช่างเข้ากันดีเธอว่าไหม ในบรรยากาศที่เป็นใจแบบนี้ ฉันว่าได้เวลาที่เราควรอยู่ใกล้กันนานกว่านี้ และถ้าตอนนี้ดาวตกลงมาเป็นดาวเสาร์ก็คงดี เผื่อเธอจะมอบสิ่งที่ใจฉันคอย อุ๋ยดาวตกแล้ว อยากให้เป็นดาวเสาร์เผื่อเธอจะเอาวงแหวนของดวงดาวมาให้ฉัน เพื่อพันผูกหัวใจเราสองดวงให้อยู่คู่กันตลอดไป เพราะในตอนนี้ หัวใจของฉันก็พร้อมแล้วนะที่จะได้พูดความในใจ กับเจ้าวงแหวนวงนั้น ที่ฉันคอย ในคืนนี้จะมีดวงดาวเป็นล้านดวง เป็นสักขีพยานในความรักของเรา ความรักคือเรื่องหัวใจไม่ต้องเดา ถ้าเรามัวแต่เดาเดี๋ยวก็ได้เวลาเช้า ในบรรยากาศที่เป็นใจแบบนี้ ช่วงเวลาดีดีที่เราได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ และถ้าตอนนี้เธอบอกกับฉัน ด้วยคำนั้นก็คงดี เพราะตอนนี้ใจฉันมีแต่เธอ อุ๋ยดาวตกแล้ว อยากให้เป็นดาวเสาร์เผื่อเธอจะเอาวงแหวนของดวงดาวมาให้ฉัน เพื่อพันผูกหัวใจเราสองดวงให้อยู่คู่กันตลอดไป เพราะในตอนนี้ หัวใจของฉันก็พร้อมแล้วนะที่จะได้พูดความในใจ กับเจ้าวงแหวนวงนั้น ที่ฉันคอย"


เพลง ดาวเสาร์, ลุลา


ดาวเสาร์ - LULA ลุลา